ข่าวกีฬา ศึกอภิมหายุทธที่ แอนฟิลด์
ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ จบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 และต่อไปคือสิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมอยากจะบอก
1.อัตราความเมามันของการศึกครั้งนี้คือ 80,000 ตีนถีบจริงๆ ต้องบอกว่าเฉพาะครึ่งหลังครึ่งเดียว เนื่องจากครึ่งแรกยังเล่นกันไม่เร้าใจสักเท่าไหร่
แมนฯ ซิตี้ เหนือกว่าในครึ่งแรกอย่างชัดเจน ด้วยการครองบอลบุกมากกว่า และมีโอกาสทำลายตาข่ายอยู่ฝ่ายเดียว ปัญหาคือใช้โอกาสเปลือง ไม่เด็ดขาดมากพอ หงส์แดงจึงยังมีชีวิตอยู่ทั้งที่เกมเป็นรองหนักมาก
ครึ่งหลังกลับเป็น ลิเวอร์พูล ที่พลิกสถานการณ์กลับมาเหนือกว่า อันแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแก้เกมและกระตุ้นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์
อย่างไรก็ตาม คุณภาพของทีมเรือใบสีฟ้าก็คับตูด แถมจิตแข็งพอที่จะเอาตัวรอดกลับออกจากถิ่นของพวก เดอะ ค็อป พร้อมแต้มในมือ
2.เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วางแผนให้ลูกทีมเล่นตามสไตล์ตัวเอง คือต่อบอลทำชิ่งตามช่องด้วยความแม่นยำและรวดเร็ว โดยเพิ่มความรัดกุม และระมัดระวังเข้าไป เพราะรู้ดีว่าเวลาคู่แข่งตัดบอลได้จะจู่โจมแบบฟ้าผ่าหัวหมาทันที
3. แล้ว ลิเวอร์พูล กลับมาได้อย่างไรในครึ่งหลัง ??? สิ่งแรกที่เห็นคือพวกเขาแสดงความกระตือรือร้นออกมามากยิ่งขึ้น เคลื่อนที่กันมากขึ้น
ต่อมาที่เห็นคือเน้นการรับบอลและส่งบอลให้มีความแน่นอนมากขึ้น ไม่เหยาะๆ แหยะๆ และสนิมสร้อยเหมือนในครึ่งแรก เมื่อรูปแบบการเล่นกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง ความน่ากลัวของเครื่องจักรสีแดงก็ทำงาน
4.โม ซาล่าห์ ระห่ำ & กระฉูด
ประตูขึ้นนำ 1-0 พี่แกออกสตาร์ทแถวๆ กลางสนาม ติดริมเส้นทางขวา
บัดดล…กระดกบอลหนีคู่แข่งแล้วกระชาก ก่อนตัดเข้าในไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ แล้วแทงทะลุช่องให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่วิ่งสอดขึ้นไปรับบอลพอดีพลางตวัดยิงตุงตาข่าย
ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/